นอกจากนี้เทือกเขาสูงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของทวีปเอเชีย เช่น เทือกเขาที่มียอกเขาสูงมาก ๆ เทือกเขาเอเวอเรสต์ที่มีระดับสูงถึง 8,888 เมตร จะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปีเนื่องจากระดับความสูงเพิ่มขึ้นจะทำให้อุณหภูมิลดลงความแปลกแตกต่างจากเทือกเขาทั่วไปรวมทั้งระดับสูงที่สุด ทำให้นักปีนเขาที่ชอบความท้าทายมาเยือนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งของการท่องเที่ยว เป็นต้น เทือกเขาสูงต่าง ๆ มักจะมีสัณฐานย่อยที่ใช้เป็นภูมิทัศน์เพื่อการท่องเที่ยว เช่น มีหน้าผาเป็นจุดชมวิว มีน้ำตก มีโตรกเขา มีพืชพรรณทีหาดูได้ยาก รวมทั้งมีอากาศเย็น เป็นต้น
ตารางแสดงยอดเขาสำคัญในทวีปเอเชีย
ลำดับที่ | ชื่อยอดเขา | ระดับสูง (เมตร) | ประเทศ |
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 | เอเวอเรสต์ กอดวิน กันสเชนจุงกา ลอตเช มาคาลู โชโอยู ตอลาคีรี มานาสลู นังกาปาร์บาตร อันนาปุรนา | 8,848 8,611 8,598 8,516 8,481 8,201 8,172 8,156 8,126 8,078 | จีน เนปาล จีน แคชเมียร์(อินเดีย) อินเดีย เนปาล จีน เนปาล จีน เนปาล จีน เนปาล เนปาล เนปาล แคชเมียร์ (อินเดีย) เนปาล |
ประยุกต์จาก : แผนที่กายภาพโลก, 2546.
3.2 ที่ราบสูง
ที่ราบสูง (Plateau) คือ พื้นที่ค่อนข้างอยู่สูงกว่าที่ต่ำโดยรอบ จากนิยามดังกล่าวที่ราบสูงจึงเป็นลักษณะของภูมิประเทศรูปแบบหนึ่งที่มีขนาดพื้นที่และระดับสูง 180-300 เมตร เช่น แผ่นดินตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่มีระดับสูงส่วนใหญ่เพียง
150-250 เมตร และมีพื้นที่ 169,954 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เรียกที่ราบสูงโคราชเนื่องจากระดับความสูงไม่มากนักแยกออกจากที่ราบภาคกลางและที่ราบต่ำเขมรอย่างชัดเจน ขณะที่ที่สูงที่อยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยกับเทือกเขาคุลุนซาน ซึ่งมีระดับสูงเฉลี่ยถึง 4,500 เมตร และมีพื้นที่ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร ก็เรียกว่า ที่ราบสูงทิเบต เป็นต้น
ดังนั้นลักษณะภูมิประเทศที่ราบสูงของทวีปเอเชียจึงปรากฏกระจายอยู่โดยทั่วไป ซึ่งมีขนาดพื้นที่และระดับสูงแตกต่างกันไป ในที่นี้จะได้กล่าวถึงเฉพาะที่ราบสูงขนาดใหญ่ ได้แก่
ที่ราบสูง (Plateau) คือ พื้นที่ค่อนข้างอยู่สูงกว่าที่ต่ำโดยรอบ จากนิยามดังกล่าวที่ราบสูงจึงเป็นลักษณะของภูมิประเทศรูปแบบหนึ่งที่มีขนาดพื้นที่และระดับสูง 180-300 เมตร เช่น แผ่นดินตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่มีระดับสูงส่วนใหญ่เพียง
150-250 เมตร และมีพื้นที่ 169,954 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เรียกที่ราบสูงโคราชเนื่องจากระดับความสูงไม่มากนักแยกออกจากที่ราบภาคกลางและที่ราบต่ำเขมรอย่างชัดเจน ขณะที่ที่สูงที่อยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยกับเทือกเขาคุลุนซาน ซึ่งมีระดับสูงเฉลี่ยถึง 4,500 เมตร และมีพื้นที่ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร ก็เรียกว่า ที่ราบสูงทิเบต เป็นต้น
ดังนั้นลักษณะภูมิประเทศที่ราบสูงของทวีปเอเชียจึงปรากฏกระจายอยู่โดยทั่วไป ซึ่งมีขนาดพื้นที่และระดับสูงแตกต่างกันไป ในที่นี้จะได้กล่าวถึงเฉพาะที่ราบสูงขนาดใหญ่ ได้แก่
เทือกเขาหิมาลัยแหล่งที่มา: http://www.snr.ac.th/wita/story/20views.htm
- ที่ราบสูงบริเวณตอนกลางของทวีป ได้แก่ ที่ราบสูงทิเบต ที่เป็นส่วนหนึ่งของหลังคาโลก ถือเป็นที่ราบสูงที่มีระดับสูงที่สุดของโลกและเอเชีย ที่ราบสูงยูนนาน บริเวณจีนตอนใต้ซึ่งเป็นจุดรวมของเทือกเขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ที่ราบสูงบริเวณตอนใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของทวีป ได้แก่ ที่ราบสูงเดคคาน บริเวณคาบสมุทรอินเดีย ที่ราบสูงอิหร่าน บริเวณประเทศอิหร่านและอัฟกานิสถาน ที่ราบสูงอาหรับ บริเวณคาบสมุทรอาหรับ ที่ราบสูงอนาโตเลีย บริเวณประเทศตุรกี - ที่ราบสูงที่สุดในโลก ที่ราบสูงทิเบตเป็นที่ราบผืนใหญ่ที่อยู่ระหว่างเทือกเขาคุนลุนซานทางด้านเหนือกับเทือกเขาหิมาลัยทางด้านใต้มีพื้นที่ประมาณ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร และมีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง เฉลี่ย 4,500 เมตร นับว่าเป็นที่ราบสูงผืนใหญ่ที่สูงที่สุดในโลก ทางทิศตะวันตกขอที่ราบสูงทิเบตมีที่ราบสูงผืนใหญ่ แต่อยู่สูงที่สุดในโลกเรียก “หลังคาโลก” ซึ่งภาษาพื้นที่เมืองแถบนั้นเรียกว่า ปามีร์ดุนยา (Pamir Dunya) หรือ ปามีร์นอต (Pamir Knot) มีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 8,611 เมตร พื้นที่บริเวณหลังคาโลกจะเป็นจุดรวมของเทือกเขาสูงที่สำคัญของทวีปเอเชีย
- ที่ราบสูงบริเวณตอนเหนือของทวีป ได้แก่ ที่ราบสูงไซบีเรียตอนกลาง บริเวณประเทศรัสเซียที่ราบสูงขนาดใหญ่ของทวีปเอเชียส่วนใหญ่จะเป็นเขตฝนน้อย บางแห่งถึงกับเป็นทะเลทราย เช่น ที่ราบสูงอิหร่าน ที่ราบสูงอาหรับ ที่ราบสูงทิเบต เป็นต้น เนื่องจากอยู่ในเขตอับฝนหรือด้านหลังเขานั่นเอง
3.3 ที่ราบ
ที่ราบ เป็นลักษณะภูมิประเทศรูปแบบหนึ่งที่มีความแตกต่างระดับภายในพื้นที่น้อยมากจนดูเหมือนราบเรียบเป็นผืนเดียวต่อเนื่องกัน ทั้งที่ความจริงอาจจะมีความสูง-ต่ำแตกต่างกันอยู่บ้าง โดยธรรมชาติที่ราบมักจะเป็นพื้นที่รับน้ำและตะกอนวัตถุต้นกำเนิดดินที่ผุสลายแล้วถูกพาเคลื่อนย้ายจากที่สูงกว่าทั้งภูเขาสูงหรือที่ราบสูงมาสะสมทับถมกัน ทำให้ที่ราบมีดินดี มีน้ำเพียงพอ ประกอบกับที่ราบมีการเข้าถึง การเดินทางเคลื่อนย้ายได้สะดวกจึงมักจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของประชากรมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ที่ราบปรากฏอยู่บนแผ่นดินทวีปเอเชียจำแนกออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ ที่ราบลุ่มน้ำ และที่ราบชายฝั่ง ซึ่งมีระดับสูงและมีขนาดของพื้นที่แตกต่างกันไป ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะที่ราบที่สำคัญของทวีปเอเชีย ดังนี้
ที่ราบ เป็นลักษณะภูมิประเทศรูปแบบหนึ่งที่มีความแตกต่างระดับภายในพื้นที่น้อยมากจนดูเหมือนราบเรียบเป็นผืนเดียวต่อเนื่องกัน ทั้งที่ความจริงอาจจะมีความสูง-ต่ำแตกต่างกันอยู่บ้าง โดยธรรมชาติที่ราบมักจะเป็นพื้นที่รับน้ำและตะกอนวัตถุต้นกำเนิดดินที่ผุสลายแล้วถูกพาเคลื่อนย้ายจากที่สูงกว่าทั้งภูเขาสูงหรือที่ราบสูงมาสะสมทับถมกัน ทำให้ที่ราบมีดินดี มีน้ำเพียงพอ ประกอบกับที่ราบมีการเข้าถึง การเดินทางเคลื่อนย้ายได้สะดวกจึงมักจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของประชากรมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ที่ราบปรากฏอยู่บนแผ่นดินทวีปเอเชียจำแนกออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ ที่ราบลุ่มน้ำ และที่ราบชายฝั่ง ซึ่งมีระดับสูงและมีขนาดของพื้นที่แตกต่างกันไป ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะที่ราบที่สำคัญของทวีปเอเชีย ดังนี้
ที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย
แหล่งที่มา: http://gotoknow.org/blog/phakawatkeetra/401242
1) ที่ราบตอนเหนือ คือ บริเวณที่ราบที่อยู่ถัดจากที่สูงตอนกลางขึ้นไปทางทิศเหนือเป็นที่ราบขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เรียกว่า ที่ราบไซบีเรีย อยู่ในพื้นที่ของประเทศรัสเซียส่วนเอเชียมีน้ำสายใหญ่ 3 สาย ไหลผ่านกัดเซาะนำเอาตะกอนที่สูงมาสะสมในที่ตำคือ แม่น้ำออบ แม่น้ำเยนิเซ และแม่น้ำลีนา ที่ราบไซบีเรียแบ่งออกเป็น 2 บริเวณ โดยที่ราบสูงไซบีเรียตอนกลางเป็นแนวแบ่งเขต ได้แก่ ที่ราบไซบีเรียด้านตะวันตกและที่ราบไซบีเรียด้านตะวันออก ซึ่งที่ราบไซบีเรียด้านตะวันออกจะมีระดับสูงมากกว่า โดยภาพรวมที่ราบตอนเหนือจะมีประชากรอาศัยอยู่เบาบางมาก เนื่องจากอยู่ในละติจูดสูงทำให้มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งอากาศที่หนาวเย็นนอกจากจะไม่เหมาะในการอยู่อาศัยแล้วยังทำให้การเพาะปลูกไม่ค่อยได้ผล
2) ที่ราบลุ่มแม่น้ำ เป็นบริเวณที่ราบที่ได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำสายใหญ่และสาขาในการปรับระดับพื้นที่ โดยการนำพาเอาตะกอนวัตถุต้นกำเนิดดินที่อุดมสมบูรณ์มาสะสมทับถม ทำให้ดินมีสภาพดี เมื่อมีดินดี มีน้ำบริบูรณ์ จึงเป็นเขตเพาะปลูกที่สำคัญที่สุดของทวีปเอเชีย บางแห่งอาจจะมีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูน้ำหลากจึงเรียก ที่ราบลุ่มแม่น้ำ
ที่ราบลุ่มแม่น้ำของทวีปเอเชียส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ทางด้านตะวันออก ด้านใต้ และด้านตะวันออกเฉียงใต้ ดังนี้
- ที่ราบลุ่มแม่น้ำฮวงเหอ ในประเทศจีน - ที่ราบลุ่มแม่น้ำแยงซีในประเทศจีน - ที่ราบลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศปากีสถานและอินเดีย - ที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดีย - ที่ราบลุ่มแม่น้ำพรหมบุตร ในประเทศบังกลาเทศ และอินเดีย - ที่ราบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรทีส หรือดินแดนเมโสโปเตเมีย ในประเทศอิรัก - ที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม - ที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงในประเทศเวียดนาม - ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทย - ที่ราบลุ่มแม่น้ำสาละวินในประเทศพม่า - ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิระวดีในประเทศพม่า |
3) เขตที่ราบชายฝั่งทะเล เป็นลักษณะภูมิประเทศรูปแบบหนึ่งที่มีความแตกต่างระดับภายในพื้นที่น้อยจนดูราบเรียบและติดชายฝั่งทะเล ทำให้ได้รับอิทธิพลจากการกระทำของทะเลจนเกิดเป็นสัณฐานย่อยประกอบชายฝั่ง เช่น สันทราย เนินทราย ชายหาด
หัวแหลม เป็นต้น ซึ่งที่ราบชายฝั่งที่ระดับน้ำทะเลมีการขึ้น-ลง ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ในบางช่วงเวลาเรียกว่า “ที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล” หรือ “ที่ราบลุ่มน้ำกร่อย” โดยปกติที่ราบชายฝั่งมักจะเป็นแนวเชื่อมต่อกันระหว่างน้ำจืดจากแผ่นดินกับน้ำเค็มในทะเล ทำให้เกิดลักษณะที่พิเศษบางอย่างของที่ราบแถบนี้ เช่น เกิดน้ำกร่อย ทำให้พืชพรรณต้องปรับตัวเฉพาะเพื่อให้อยู่รอด เป็นต้น ที่ราบชายฝั่งของทวีปเอเชียจะปรากฏอยู่ทั้งในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปเป็นชายฝั่งที่กว้างบ้างแคบบ้าง เว้า ๆ แหว่ง ๆ หรือราบเรียบ เป็นหาดทราย หาดโคลน หรือหาดเลนซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะทางธรณีในเรื่องของหินและแร่ที่อยู่เบื้องหลังชายฝั่งทำให้เกิดตะกอนทรายหรือดินเหนียว ชายฝั่งบางช่วงป่าชายเลนถูกทำลายด้วยการกระทำของมนุษย์ เช่น ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นนากุ้ง หรือเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นต้น
3.4 ทะเลทราย
ทะเลทราย เป็นรูปแบบของภูมิประเทศชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติของอากาศแล้งจัด นั่นคือ มีไอน้ำหรือความชื้นในอากาศน้อยมาก และมีคุณสมบัติของดินแห้งจัด คือ มีน้ำในดินน้อยมาก และส่วนใหญ่ประกอบด้วยอานุภาคที่เป็นทราย ประกอบกับโดยทั่วไปมีปริมาณฝนต่อปีน้อยกว่า 250 มิลลิเมตร มักไม่ค่อยปรากฏทางน้ำหรือสายน้ำ จึงทำให้พืชพรรณธรรมชาติส่วนใหญ่ เป็นหญ้าทนแล้งที่มักจะมีหนามไม่มีใบ เพื่อลดการคายน้ำของปากใบ เป็นการปรับตัวของพืช เช่น กระบองเพชร เป็นต้น ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวจึงเรียกลักษณะภูมิประเทศรูปแบบนี้ว่า “ภูมิประเทศแห้งแล้งแบบทะเลทราย” ทะเลทรายที่ปรากฏในทวีปเอเชีย ได้แก่ ทะเลทรายบริเวณคาบสมุทรอาหรับ ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายธาร์ รวมทั้งที่ราบสูงทิเบต และที่ราบสูงอิหร่าน
3.5 กลุ่มเกาะ
เกาะ (Island) คือ ผืนแผ่นดินที่ล้อมรอบด้วยน้ำ ซึ่งถ้ามีเกาะอยู่รวมกันมาก ๆ ในบริเวณหรือย่านเดียวกันเรียกว่า “กลุ่มเกาะ” หรือ “หมู่เกาะ” เช่น กลุ่มเกาะอินโดนีเซีย คือ กลุ่มเกาะที่ประกอบด้วย เกาะใหญ่สุมาตรา ชวา บอร์เนียว เซลีเบส อิเรียนจายา และเกาะเล็ก ๆ อีกมากมาย เป็นต้น กลุ่มเกาะที่สำคัญของทวีปเอเชีย ได้แก่ กลุ่มเกาะอินโดนีเซีย กลุ่มเกาะฟิลิปปินส์ กลุ่มเกาะญี่ปุ่น กลุ่มเกาะย่านรัสเซีย กลุ่มเกาะอันดามันและกลุ่มเกาะมัลดีฟส์
หัวแหลม เป็นต้น ซึ่งที่ราบชายฝั่งที่ระดับน้ำทะเลมีการขึ้น-ลง ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ในบางช่วงเวลาเรียกว่า “ที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล” หรือ “ที่ราบลุ่มน้ำกร่อย” โดยปกติที่ราบชายฝั่งมักจะเป็นแนวเชื่อมต่อกันระหว่างน้ำจืดจากแผ่นดินกับน้ำเค็มในทะเล ทำให้เกิดลักษณะที่พิเศษบางอย่างของที่ราบแถบนี้ เช่น เกิดน้ำกร่อย ทำให้พืชพรรณต้องปรับตัวเฉพาะเพื่อให้อยู่รอด เป็นต้น ที่ราบชายฝั่งของทวีปเอเชียจะปรากฏอยู่ทั้งในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปเป็นชายฝั่งที่กว้างบ้างแคบบ้าง เว้า ๆ แหว่ง ๆ หรือราบเรียบ เป็นหาดทราย หาดโคลน หรือหาดเลนซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะทางธรณีในเรื่องของหินและแร่ที่อยู่เบื้องหลังชายฝั่งทำให้เกิดตะกอนทรายหรือดินเหนียว ชายฝั่งบางช่วงป่าชายเลนถูกทำลายด้วยการกระทำของมนุษย์ เช่น ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นนากุ้ง หรือเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นต้น
3.4 ทะเลทราย
ทะเลทราย เป็นรูปแบบของภูมิประเทศชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติของอากาศแล้งจัด นั่นคือ มีไอน้ำหรือความชื้นในอากาศน้อยมาก และมีคุณสมบัติของดินแห้งจัด คือ มีน้ำในดินน้อยมาก และส่วนใหญ่ประกอบด้วยอานุภาคที่เป็นทราย ประกอบกับโดยทั่วไปมีปริมาณฝนต่อปีน้อยกว่า 250 มิลลิเมตร มักไม่ค่อยปรากฏทางน้ำหรือสายน้ำ จึงทำให้พืชพรรณธรรมชาติส่วนใหญ่ เป็นหญ้าทนแล้งที่มักจะมีหนามไม่มีใบ เพื่อลดการคายน้ำของปากใบ เป็นการปรับตัวของพืช เช่น กระบองเพชร เป็นต้น ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวจึงเรียกลักษณะภูมิประเทศรูปแบบนี้ว่า “ภูมิประเทศแห้งแล้งแบบทะเลทราย” ทะเลทรายที่ปรากฏในทวีปเอเชีย ได้แก่ ทะเลทรายบริเวณคาบสมุทรอาหรับ ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายธาร์ รวมทั้งที่ราบสูงทิเบต และที่ราบสูงอิหร่าน
3.5 กลุ่มเกาะ
เกาะ (Island) คือ ผืนแผ่นดินที่ล้อมรอบด้วยน้ำ ซึ่งถ้ามีเกาะอยู่รวมกันมาก ๆ ในบริเวณหรือย่านเดียวกันเรียกว่า “กลุ่มเกาะ” หรือ “หมู่เกาะ” เช่น กลุ่มเกาะอินโดนีเซีย คือ กลุ่มเกาะที่ประกอบด้วย เกาะใหญ่สุมาตรา ชวา บอร์เนียว เซลีเบส อิเรียนจายา และเกาะเล็ก ๆ อีกมากมาย เป็นต้น กลุ่มเกาะที่สำคัญของทวีปเอเชีย ได้แก่ กลุ่มเกาะอินโดนีเซีย กลุ่มเกาะฟิลิปปินส์ กลุ่มเกาะญี่ปุ่น กลุ่มเกาะย่านรัสเซีย กลุ่มเกาะอันดามันและกลุ่มเกาะมัลดีฟส์
ตาราง แสดงชื่อและขนาดพื้นที่เกาะสำคัญในทวีปเอเชีย
ลำดับที่ | ชื่อเกาะ | ขนาดพื้นที่ (ตารางกิโลเมตร) | ระบุแหล่งที่มาของข้อมูล | ในมหาสมุทร |
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 | บอร์เนียว สุมาตรา ฮอนซู เซลีเบส ชวา ลูซอน มินดาเนา ฮอกไกโด แซคาลิน ศรีลังกา | 737,000 425,000 230,000 189,000 126,700 104,700 95,000 78,400 76,400 65,600 | อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น รัสเซีย ศรีลังกา | แปซิฟิก อินเดีย แปซิฟิก แปซิฟิก อินเดีย แปซิฟิก แปซิฟิก แปซิฟิก แปซิฟิก อินเดีย |
ประยุกต์จาก : CONCISE ATLAS OF THE WORLD, 1996.
3.6 ทะเลและมหาสมุทร
อย่างที่ทราบกันว่าพื้นผิวของโลกประมาณ 3 ใน 4 นั้นเป็นพื้นน้ำและเกือบทั้งหมดเป็นพื้นน้ำทะเลทำให้เกิดปรากฏการณ์ตามธรรมชาติมากมาย เช่น ทำให้เกิดพายุหมุนที่รุนแรงพัดเข้าสู่แผ่นดินอันเป็นผลมาจากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผืนดินกับพื้นน้ำ ทำให้ความกดอากาศต่างกันจึงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของลมพายุ เอเชียเป็นทวีปที่ตั้งอยู่ระหว่าง 3 มหาสมุทร ได้แก่
มหาสมุทรอาร์กติกบริเวณขั้วโลกเหนือ มหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออกแยกเอเชียออกจากผืนแผ่นดินทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ และมหาสมุทรอินเดียทางใต้แยกเอเชียออกจากทวีปออสเตรเลียและทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนทะเลของเอเชียประกอบด้วยทะเลแดง ทะเลอาหรับ ทะเลอันดามัน ทะเลจีนใต้ ทะเลเซลีเบส ทะเลติมอร์ ทะเลบันดา ทะเลจีนตะวันออก ทะเลเหลือง
ทะเลญี่ปุ่น และทะเลโอคอตสก์
อย่างที่ทราบกันว่าพื้นผิวของโลกประมาณ 3 ใน 4 นั้นเป็นพื้นน้ำและเกือบทั้งหมดเป็นพื้นน้ำทะเลทำให้เกิดปรากฏการณ์ตามธรรมชาติมากมาย เช่น ทำให้เกิดพายุหมุนที่รุนแรงพัดเข้าสู่แผ่นดินอันเป็นผลมาจากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผืนดินกับพื้นน้ำ ทำให้ความกดอากาศต่างกันจึงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของลมพายุ เอเชียเป็นทวีปที่ตั้งอยู่ระหว่าง 3 มหาสมุทร ได้แก่
มหาสมุทรอาร์กติกบริเวณขั้วโลกเหนือ มหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออกแยกเอเชียออกจากผืนแผ่นดินทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ และมหาสมุทรอินเดียทางใต้แยกเอเชียออกจากทวีปออสเตรเลียและทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนทะเลของเอเชียประกอบด้วยทะเลแดง ทะเลอาหรับ ทะเลอันดามัน ทะเลจีนใต้ ทะเลเซลีเบส ทะเลติมอร์ ทะเลบันดา ทะเลจีนตะวันออก ทะเลเหลือง
ทะเลญี่ปุ่น และทะเลโอคอตสก์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น